วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

11 ไอเดียสร้างสรรค์..จากขวดพลาสติก


ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์มา เห็นว่าน่าสนใจ และเก๋ไก๋ดีค่ะ

เป็นวิธีรีไซเคิลขวดลิตรของต่างชาติเขา ลองมาดูกันว่าจากขวดพลาสติกใส่น้ำดื่มที่พวกเราใช้กัน จะสามารถเอาไปดัดแปลงเป็นอะไรได้อีกบ้าง..

อันแรกนี่สวยและทำได้ไม่ยาก..."เชิงเทียน"
Photobucket

อันนี้ยิ่งง่าย เปลี่ยนจากน้ำมาใส่ขนมหรือลูกหินก็น่ารักดีนะ

Photobucket

โคมแบบเตี้ย.. ลอยน้ำก็ได้
Photobucket

นาฬิกาทรายแบบแฮนด์เมด
Photobucket

อันนี้เราก็ทำ..อิอิ..
Photobucket

อันนี้เก๋ไก๋ค่ะ ตอกตาไก่เข้าหน่อย ติดกระดุมก็ได้
Photobucket

อันนี้ต้องลงทุนติดซิป แล้วก็จะได้ออกมาเป็นกระเป๋าใส่ดินสอที่ไม่เหมือนใครแบบนี้!

Photobucket

ด้วยวิธีแบบเบสิกก็สวยงามแบบคลาสสิกได้
Photobucket

ใครจะเอาวิธีนี้ไปใช้แต่งบ้านก็ไม่เลวนะ
Photobucket

นี่ก็ชั้นวางของแนวใหม่
Photobucket

อันสุดท้าย ไม่รู้ทำได้ไง.."อะตอม-โมเลกุล" (หรืออะไร??) ^ ^'
Photobucket

น่าลองไปทำเล่นมั่งเนอะ!

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

[VDO] 8 ways of bottle recycling

I just found this useful ways of recycling 2 litre bottle on Youtube.
Thanks the owners for sharing :)

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

[001] ลดขยะด้วย 3R

ใกล้สิ้นปีแล้วแต่ห้องยังรกอยู่เลย T_T
ไม่รู้เพราะแบบนี้หรือเปล่าเราถึงได้ไอไม่หยุดสักที (สงสัยดมขี้ฝุ่นมากไปมั้ง?)

ไม่ไหวๆ จำเป็นต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้ว!
วันนี้เลยหา "วิธีมาตรฐาน" ที่จะช่วยเรื่องห้องรกเอามาไว้ใช้สักหน่อย
เริ่ม entry แรกกันด้วยเจ้า "3R" นี่แหล่ะ!!

"ว่าแต่...อะไรคือ 3R?"

3R ก็คือ
- Reduce
- Reuse และ
- Recycle
หรือ “การลดปริมาณการใช้” “การใช้ซ้ำ” และ “การนำกลับมาใช้ใหม่” นั่นเอง
(พอบอกแบบนี้ก็ร้อง อ๋อ..! กันเลยล่ะสิ)

เริ่มจากอักษร R ตัวแรก คือ "Reduce"
แปลตรงตัวว่า “การลดลง” คือ การลด-ละ-เลิก ใช้สิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็น หรือใช้จำนวนให้น้อยลง เช่น เวลาเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง จากที่เคยใช้กระดาษชำระม้วนๆ เป็นปึกเบ้อเริ่ม ก็ลดลงเหลือ 3 แผ่นก็พอ รือจากที่เคยใช้กระดาษทิชชู่เช็ดหน้า เช็ดปาก วันละหลายแผ่น ก็เปลี่ยนมาใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว เช็ดหน้าได้ทั้งวัน เป็นต้น

อักษร R ตัวถัดมา ก็คือ "Reuse" แปลว่าการใช้ซ้ำ เป็นการใช้สิ่งของชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน เรียกว่าใช้กันอย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว เช่น น้ำอัดลมขวดลิตร ดื่มหมดแล้วก็นำไปใส่น้ำเปล่าแทน สำหรับน้ำยาซักผ้า ล้างจาน ใช้หมดแล้วก็ซื้อแบบ refill หรือถุงเติมแทนการซื้อใหม่เป็นขวด หรือใช้ปิ่นโตไปซื้ออาหารที่ตลาดใกล้บ้านแทนการใช้ถุงร้อนบรรจุอาหารและลดการใช้ถุงก๊อบแก๊บไปในตัว เป็นต้น

และอักษร R ตัวสุดท้าย คือ "Recycle" หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ อันนี้จะมีความพิเศษที่แตกต่างจาก Reuse หรือการใช้ซ้ำโดยจะเป็นการนำวัสดุ สิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว มาแปรสภาพเสียก่อน จึงจะนำกลับมาใช้ อย่างน้ำอัดลมขวดลิตร หากนำมาตัดแบ่งครึ่ง เอาไปทำกระบวยตักน้ำ หรือใช้เป็นกระถางปลูกต้นไม้ขนาดเล็ก ก็นับเป็นการ Recycle แต่ถ้าจะยกตัวอย่างกระบวนการ recycle ให้เห็นชัดเจน ก็เช่นการนำขยะพลาสติกกลับไปเข้ากระบวนการหลอมละลาย แล้วขึ้นรูปมาใหม่กลายเป็นถุงดำ กะละมัง ถังขยะ เป็นต้น หรือกระดาษขาวใช้แล้ว นำไปผ่านการบวนการแปรสภาพออกมาเป็นกระดาษกล่อง แม้แต่การชั่งหนังสือพิมพ์ไปขายที่พวกเราทำกันมาช้านานก็เป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการ Recycle เช่นกัน

ทั้ง 3R นี้จะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะ และมลพิษที่อาจเกิดขึ้นจากกองขยะหากปล่อยให้มีเป็นจำนวนมากต่อไป อีกทั้งลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดปริมาณสารประกอบคาร์บอนจากกระบวนการผลิตที่ปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย

แหม.. ทำไม่ยาก แถมมีประโยชน์ดีเลิศขนาดนี้ ไม่ลองเอาไปลองใช้กันก็น่าเสียดายแย่สิ!

เดี๋ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้เราจะลองทำดู ยังไม่รู้จะทำได้แค่ไหน
ไว้จะมาเล่าผลการจัดห้องอีกทีค่ะ :)

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

[Intro] Less is more fun




สวัสดีค่ะ

ขอต้อนรับสู่บล็อก "
Less is more fun" ของ Joe ค่ะ

บล็อกนี้เกิดขึ้นจากความนิสัยเสียของเจ้าของบล็อกที่เป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไหร่ ขี้เกียจขั้นเทพ แถมยังเป็นพวกบ้าช้อปปิ้งแบบไม่รู้จักคิดหน้าคิดหลัง กว่าจะรู้ตัวภายในห้องก็เต็มไปด้วยสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆเต็มไปหมด ซึ่งบางอย่างก็ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไรนัก อาศัยว่าน่ารัก ก็เลยซื้อหามาใช้ (ทั้งๆที่อาจไม่จำเป็นเลย)

ก็เลยเกิดความคิดที่จะหาวิธีจัดการกับข้าวของต่างๆที่มีอยู่ ไม่ว่าจะคัดแยกแล้วนำไปยกต่อให้คนในครอบครัว นำไปเป็นของขวัญให้คนที่ดูท่าว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากเจ้าของสิ่งนั้นได้มากกว่าเรา หรือไม่ก็นำไปบริจาค และสุดท้ายคือชั่งโลขาย! เรียกว่าพยายามทำทุกวิถีทางที่จะลดของใช้ที่มีอยู่ในเหลือน้อยที่สุด เพื่อจะได้พื้นที่ห้องที่กว้างขวางพอให้นั่งๆนอนๆเล่นได้คืนมา

บอกตามตรงนะว่าเราไม่ใช่คนประหยัด เวลาจะซื้อของสักชิ้น ถ้าราคาสมเหตุสมผลกับความต้องการใช้งาน ก็ซื้อเลยไม่คิดมาก
เพียงแต่ตัวเองจะมีหลักการในการตัดสินใจง่ายๆ คือ 1) ฉันจะใช้งานมันได้นานแค่ไหน? 2) คุณภาพของวัสดุเหมาะสมกับราคาหรือเปล่า? และ 3) ฉันชอบมันแค่ไหน?

ข้อ 3 สำหรับ"ฉัน"นี่สำคัญที่สุด เพราะมันเป็นตัวกำหนดข้อ 1. กับ ข้อ 2 ด้วย เพราะหากฉันชอบ ฉันก็จะใช้มันนาน และจะทะนุถนอมไม่ให้มันพังง่ายๆด้วย ส่วนราคาที่แพงไปน่ะเหรอ? ฉันก็ต่อสิคะ ..หุหุ..

เท่านี้ก็จะได้ของดีที่ชอบ ในราคาที่ชอบ แล้วใช่ไหม
จะเหลือก็แค่จะหาที่เก็บให้มันยังไงเท่านั้นแหล่ะ ที่ยังทำให้ปวดหัวอยู่จนทุกวันนี้
เคยพยายามจะอดใจไม่ซื้อ แต่พอเดินผ่านของเก๋ๆ น่ารักๆทีไรก็อดมองตาละห้อยไม่ได้สิน่า

ก็เลยเกิดความคิดว่า "ทำยังไงเราถึงจะได้ของน่ารักๆใช้ โดยไม่ต้องเปลืองสตางค์นะ?"
แน่นอนว่าต้องเป็นวิธีที่สุจริต ไม่ไปขโมยของใครเขามาด้วยนะ

และแล้วก็นึกไปถึงเพื่อนสนิทคนนึงของฉันสมัยเรียนที่เธอจะเป็นสาวแอคทีฟตลอดเวลา
คือ เธอจะมีกิจกรรมเยอะ ต้องเดินทางเยอะ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะตามกิจกรรมที่ทำไปด้วย
ทีนี้พอถึงวันเกิดเพื่อนๆที เธอคนนี้ก็จะไม่มีตังค์ (55) แต่ก็ยังหาทางออกได้แถมมีของขวัญมาให้ฉันทุกปีด้วย
เพราะเธอ “ทำเองกับมือ”
ฉันได้ของขวัญเป็นปฏิทินทำมือจากเธอมา 2 ปีติดต่อกัน และก็ยังเก็บรักษาไว้อย่างดีจนถึงวันนี้
เพราะถึงมันจะหมดอายุการใช้งานของช่วงปีในปฏิทินนั้นไปแล้ว แต่คุณค่าของมันที่เป็นของซึ่งเพื่อนประดิษฐ์ให้มันยังอยู่ในใจฉันไปตลอด

นอกจากปฏิทินของเพื่อนคนนี้แล้ว พวกของทำมืออื่นๆที่ได้รับมาจากเพื่อหรือคนรู้จักฉันก็รู้สึกว่ามันมีคุณค่าทั้งนั้น

และแล้วก็เลยนำนิตยสารที่มีอยู่มาเปิดดู แล้วก็ตัดภาพของใช้ที่ชอบออกมา ดูว่าของแบบนี้ หน้าตาแบบนี้น่ะ เอ..ที่บ้านเรามีอะไรที่คล้ายแบบนี้อยู่บ้างหรือเปล่า? มีอะไรที่พอจะใช้แทนกันได้บ้างนะ? จากนั้นก็ใช้เทคนิคส่วนตัวในการดัดแปลงเอาเจ้าของที่มีอยู่แล้วในบ้าน มาทำใหม่เป็นของอื่นที่เราต้องการ
ถึงหน้าตาจะออกมาไม่สวยเท่าไหร่ ไม่เนี้ยบเท่าของที่ทำจากโรงงานผลิต แต่สิ่งที่ได้คือ "ความพอใจ" "ความมันส์" และ สตางค์ที่ยังเหลืออยู่ในกระเป๋าครบ พร้อมที่จะนำไปใช้ยามฉุกเฉินต่อไป (55)

ดังนั้น เราจึงตั้งใจเปิดบล็อกนี้ขึ้นมาเพื่อรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับไอเดียการ ลด-ละ-เลิก และ การนำกลับมาใช้ใหม่ เท่าที่เคยประสบพบเห็นจากประสบการณ์ตรง จากเพื่อนๆ รวมทั้งจากบทความต่างๆ ที่เคยได้อ่าน ซึ่งจะนำมาเฉพาะไอเดียที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ด้วยความคิดพื้นฐานง่ายๆว่า “ทำยังไงถึงจะได้ของที่ต้องการ..โดยที่ประหยัดกว่า” นอกจากนั้นก็อาจมีเรื่องของไอเดียดีๆของชาวบ้านที่เราประทับใจ ก็อาจจะนำมาสะสมรวบรวมไว้ในนี้เช่นกันค่ะ


เพราะฉะนั้นใครที่ผ่านเข้ามาเยี่ยมเยียนบล็อกนี้ และเคยประสบปัญหาเดียวกันกับเจ้าของบล็อก คือเป็นพวกช่างซื้อแต่ไม่ชอบทิ้ง/ทิ้งไม่ลง อะไรทำนองนี้ ขอให้ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้พวกเราแฮปปี้กับชีวิต แบบ Less is more fun! กันนะคะ



Hello everyone!

Welcome to LESS IS MORE FUN page. Here you will find my little compilation of various tips, which (I hope) will help you to get more fun with your so-called lives.

My idea is very simple; “Spend less, get more” For example, "How can I get a new accessories without buying it?" To answer this question, rather than stealing it from someone, I would try to find the materials left in my house and recycle them to made one of my own. By doing this I would spend less money but get the thing I want, which I can proud of.

I will collect some easy ways to get DIY products by recycling things you can find in your house, some creative ideas from my friends and articles I like in this blog. Also if you have anything to share, please do not hesitate to mail me or leave your comments in here.

Since this blog is giving information mostly in Thai language, it would be hard for people using other languages to understand. Anyway, we are welcome comments of any language. So let’s get together and befriends.

See you around,
Joe